Videos → ฟีเจอร์ใหม่ใน Material UI v6 ที่ต้องรู้
Description
คุณจุ้น Core Contributor ของ Material UI มาแชร์ความรู้และอัปเดตใหม่ๆ ใน Material UI เวอร์ชัน 6 หลังจากพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 3 ปี พบกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุง dark mode ให้ใช้งานง่ายขึ้น การปรับปรุงการ custom สไตล์ การรองรับ CSS variables และ Container Query รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Pigment CSS library ใหม่ที่ช่วยแปลง stylesheet จาก JavaScript เป็น CSS เพื่อรองรับ React Server Components และการแก้ปัญหาเรื่อง server-side rendering มาร่วมเรียนรู้และอัปเดตความรู้เกี่ยวกับ Material UI เวอร์ชัน 6 ไปพร้อมกัน
Chapters
- แนะนำ Material UI เวอร์ชัน 6 0:00
- Material UI คืออะไร? Stat และเบื้องหลังบริษัท MUI 0:57
- ลูกค้าของ MUI และที่มาของรายได้ 3:10
- Material UI v6: เปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับ React Server Component 4:31
- CSS in JS และปัญหาในการจัดการ Server-Side 5:09
- ฟีเจอร์ใหม่ใน Material UI v6: Dark Mode ที่ดีขึ้น 7:26
- รายละเอียด Dark Mode: System Preference, Tab Sync, และ Transition 9:03
- ปัญหาการกระพริบของ Dark Mode ใน Server-Side และวิธีแก้ไขใน v6 11:47
- การจัดการธีมแบบ Static ใน Material UI v6 12:44
- Custom Style สำหรับ Dark Mode ที่ง่ายขึ้นด้วย theme.applyStyles 16:19
- Codemod สำหรับการ Migrate โค้ดสไตล์ 19:02
- CSS Variables: การ Debug และ Integrate ที่ง่ายขึ้น 20:05
- Container Query: Utility ใหม่ใน Material UI v6 23:37
- การปรับปรุงอื่นๆ: Performance, Template, Grid, และ Package Size 25:56
- Template ใหม่ๆ ที่ใช้งานได้ทันที 27:48
- Grid System ที่ใช้ Gap แทน Margin 29:32
- Bundle Size ที่เล็กลง 30:29
- Pigment CSS: เปลี่ยนจาก CSS-in-JS เป็น Plain CSS 31:06
- Demo Pigment CSS กับ Next.js project 32:51
- การใช้งาน Pigment CSS ใน Next.js config 36:56
- ปัญหา Performance ของ Pigment CSS และอนาคตของ Library 39:25
- สรุปและ Q&A 40:10
Transcript
คำบรรยายต่อไปนี้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด หากคุณพบข้อผิดพลาดใดๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดได้บน GitHub
แนะนำ Material UI เวอร์ชัน 60:00
โอเคครับ ตอนนี้ใกล้เวลาบ่าย 3 ครึ่งแล้วนะครับ ก็เดี๋ยวจะเปิด session ต่อไปเลยครับ ใน session ต่อไปนี้ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ Material UI นะครับ ที่เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ปล่อยเวอร์ชัน major 6 มา หลังจากกี่ปีนะครับ พี่จุ้น 3 ปีนะครับ ก็มีอะไรมาใหม่ใน Material UI นี้ ก็ขอเชิญพี่จุ้น Core Contributor ของ Material UI ครับผม
สวัสดีครับทุกคน ไม่ได้มาพูดนานมาก เพราะว่าติดอยู่กับอีเวอร์ชันนี้แหละ ก็
สวัสดีครับ ผมชื่อจุ้น ตอนนี้ทำงานเป็น software engineer อยู่ที่บริษัทชื่อ MUI นะครับ มีใครไม่เคยใช้บ้างไหมครับ
ไม่มีนะ เป็นคำถาม พอรู้ว่าไม่มีใครยกมือ
Material UI คืออะไร? Stat และเบื้องหลังบริษัท MUI0:57
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เดี๋ยวเกริ่นอีกนิดนึง ตัวนี้ โลโก้นี้นะครับ เป็น open source React component นะครับ ที่เพิ่งครบ 10 ปีไปเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วนะครับ ถือว่าเป็น library ที่อยู่มาค่อนข้างนานนะครับ แล้วก็เริ่มจะมีคนไม่ค่อยใช้กันแล้ว ไม่ใช่ อันนี้เป็น stats เล็กๆ น้อยๆ ละกัน ให้ทุกคนเห็นก่อนว่าโปรเจกต์อ่ะ มันเป็นโปรเจกต์ size ที่ค่อนข้างใหญ่นะครับ มีฐานคนใช้งานอยู่ค่อนข้างเยอะ เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ผมเข้ามา ผมก็เริ่มจะเห็นนะว่าโปรเจกต์ size ใหญ่ๆ เนี่ย เวลาที่เราจะตัดสินใจทำอะไรเนี่ย มัน ต้องคิดเยอะมากกว่าเขียนโค้ด นะครับ คือ ณ ปัจจุบันเนี่ย คนใช้งานตัวเว็บไซต์นะ มันจะมี mui.com เนี่ย คือเข้ามา documentation อะไรพวกนี้นะครับ อยู่ที่ประมาณล้านคนนะ ต่อเดือน ก็ถือว่าค่อนข้างเยอะ อันนี้ global นะครับ ทั่วโลก แล้วก็ยอดดาวน์โหลดนะ ปัจจุบันเนี่ย อยู่ที่ประมาณ 4 ล้านครั้ง อันนี้จาก npm
ต่อสัปดาห์ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 18% ของตัว React DOM ก็คือ React บนเว็บนะครับ ก็นับว่าค่อนข้างเยอะนะ React บนเว็บ ก็ตอนนี้น่าจะเยอะที่สุด ในตลาดของ framework การทำเว็บใช่มั้ย
ก็คิดว่าไม่น่าจะมีใครที่ไม่ใช้ React เนาะ จะมี Vue อยู่คนนึง แต่ไม่เป็นไร
สำหรับตัวบริษัท บริษัทเราเริ่มมาจาก open source นะครับ แล้วก็ พอมันมีการใช้งาน คนเริ่ม เห็น ใช้งานเยอะขึ้นเนี่ย มันก็เริ่มขยายออกมาเป็นทั้ง open source คือบริษัทเรา drive ด้วย open source แล้วก็ เริ่มจะมี paid product นะครับ เพื่อเอามา เรียกว่า หมุน นะครับ หมุนตัวบริษัทได้ ก็ตอนนี้มีประมาณ 38 คนในบริษัท จาก 25 ประเทศ ก็ถือว่าเป็นบริษัทที่แบบ ค่อนข้างจะหลากหลาย culture มากนะครับ อยู่ทั้งฝั่งเอเชีย ยุโรป แล้วก็ฝั่งที่เป็น US นะครับ
ลูกค้าของ MUI และที่มาของรายได้3:10
โอเค อ่ะ ถ้าถามลูกค้าจริงๆ เพราะว่าผมรู้สึกว่า บางคนจะมีความสงสัยนะว่า เฮ้ย เดี๋ยวนะ คือเป็นบริษัท open source เอาเงินมาจากไหนวะ ใช่มั้ย ก็เรามีทั้งพาร์ทที่เป็นขายด้วยนะ ขาย product อะไรอย่างเงี้ย