Videos → Toxicfication x ZIN
Event | a bit of thai tunes |
Transcript
คำบรรยายต่อไปนี้อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด หากคุณพบข้อผิดพลาดใดๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดได้บน GitHub
สวัสดีทุกคนครับ ผม Toxicfication นะครับกับน้อง ZIN วันนี้เรา ผมมาคอลแลบกับน้องครับ ผมเล่าที่มาของงานชิ้นนี้ก่อนว่า มาทำอะไรที่นี่วันนี้
งานชิ้นนี้เป็น-
ทำไมเสียงมันไม่หยุด
มันคือเสียงจากคลื่นสมองของผมนะครับ งานชิ้นนี้เป็นต่อยอดจากปีที่แล้วนะครับ ปีที่แล้วผมได้เอาเสียงในอวกาศนะครับ เอามา plot เป็น คลื่นเสียง เรียกว่า sonification นะครับ คล้ายๆ กับชื่อผมนะครับ ถ้าใครรู้ sonification เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ที่เอาคลื่นความถี่ที่ เกินจากการรับรู้ของมนุษย์ ทำให้มนุษย์ได้ยินเสียงได้ งานชุดปีที่แล้วของผมเนี่ย เป็นงานที่ผมเก็บเสียงจากอวกาศนะครับ เป็นเสียงที่เดินทางมาไกลมากจากอวกาศ เป็นคลื่นวิทยุ รังสีต่างๆ เพื่อเอา มาเป็น เพลง นะครับ เอามาเป็นดนตรีหรือว่าเป็น experimental เป็น sound อะไรบางอย่างนะครับ ซึ่งงานปีที่แล้วมันก็ได้จบไปแล้ว มันคืองานที่ผมเรียกว่า outside ก็คือการเดินทางออกไปไกลที่สุดของมนุษย์นะครับ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยาน Voyager ตอนที่ Carl Sagan ให้ยาน Voyager หัน หน้ากลับเข้ามาถ่ายโลกของเรานะครับ เป็นจุดสีฟ้าอันเล็กๆ นิดเดียวนะครับ งานปีนี้ชื่อว่า inside นะครับ conceptual ทั้งหมดผมไม่ทำอะไรข้างนอกเลย
ผมเอาคลื่นสมองของผมเนี่ย จับเข้ามา แล้วเอาไป train ผ่าน machine learning นะครับ โดยการฝึกทำสมาธินะครับ แล้วก็ให้ machine learning เนี่ย คาดเดาพฤติกรรมว่าตอนนี้ผมทำสมาธิอยู่ ผมตื่นเต้น หรือผมอยู่ในภาวะไม่มีสติหรือเปล่านะครับ
ซึ่ง machine learning เนี่ยก็จะเข้ามาใน Open Processing อีกทีหนึ่งนะครับ เพื่อที่จะ ทำให้มันเร็วขึ้นนะครับ แล้วก็เอาไปเข้าที่ Python นะครับ เพื่อ คาดเดาพฤติกรรมต่างๆ แล้วผมก็สร้างตัว software ขึ้นมาเพื่ออ่านด้วยนะครับ บวกกับ ผม ได้รับคอนเซปต์ชุดนี้มานะครับ a bit of thai tunes ก็เลยย้อนกลับไปหามองรากเหง้าของผมนะครับ ซึ่ง ตระกูลของผ มเนี่ย เล่นหนังตะลุงนะครับ เล่นหนังตะลุง มโนราห์ ผมก็เลยถอดแบบระบำของภาคใต้ ที่เรียกว่าระบำพรานบุญเนี่ย มาใหม่โดยผม ใช้ machine learning เหมือนกันนะครับ เพื่อเรียนรู้แล้วก็ผ่านทิศทางของอุปกรณ์ชิ้นนี้นะครับ ในการเต้นรำนะครับ
ซึ่งทั้งหมดเนี่ยรวมกันแล้ว ก็จะกลายเป็นเสียงบ้าง ไม่เป็นเสียงบ้าง เพราะว่า ท้ายที่สุดแล้วเนี่ย ความเป็นไทยที่ผมมองเนี่ย มันไม่ใช่ความเป็นไทยที่มันถูกนิยามอยู่ใน ในหนังสือหรือว่าความ เป็นไทยแค่ คนที่อยู่ตรงนี้นะครับ ความเป็นไทยนี่ มันอาจจะพูดถึงคนที่อยู่ชายขอบสุดๆ คนที่ไม่มีระเบียบว ินัย คนที่ไม่มีมารยาท หรือคนป่า ป่าเถื่อนอะไรก็ได้ทั้งหมดนะครับ นั่นก็คือความเป็นไทย จริงๆ และก็คือความหลากหลายนะครับ ดังนั้น เสียงที่ สร้างขึ้นในวันนี้ ผมประกอบมาจาก ความหลากหลายนะครับ ทั้งเสียง ของปี่มโนราห์นะครับ เสียงจังหวะในการ improvise ของดนตรีไทยนะครับ แล้วก็ความคิดของผมว่าผมได้ยินเสียงเหล่านี้นะครับ ดังนั้น ดนตรี อันนี้ ถ้าคุณไปฟังอีกครั้งหนึ่งมันจะไม่เหมือนเดิมแล้วนะครับ เพราะว่าผมเล่นครั้งนี้เป็นการ improvise ร่วมกับน้องทั้งหมดนะครับ
แต่ว่าผมจะใช้ Python script เพื่อจัดการเป็น automation ไว้นะครับ พูดง่ายๆ ก็คือ ในฟอร์มเพลงเนี่ย ในวันนี้ ผมควบคุมมันแค่โครงสร้างของเพลงนะครับ แต่ด้านในโครงสร้างหรือด้านในกล่องเนี่ย ผมปล่อยให้มันเป็นอะไรก็ได้นะครับ ที่ผมจะ ใช้ความคิดออกมาขณะนี้นะครับ ใน การ train ผ่านคลื่นสัญญาณนะครับ ครับ
จะ ร่วมกับ visual ของน้องนะครับ ที่ เป็นการตีความอีกทีหนึ่งนะครับ ความหลากหลาย ความหลากหลายที่ผมพูดถึงเนี่ย ก็คือมันสะท้อนผ่าน น้องเขาไป research ก็คือสะท้อนผ่านเป็น speaker นะครับ หรือว่าคำคมต่างๆ ที่ เราชอบ quotation มาจาก internet นะครับ จ ะเห็นว่าวัฒนธรรมไทยเนี่ย มันจะมีการมีคำฮิตนะครับอยู่ช่วงหนึ่ง หรือว่าคำที่ติดอยู่ท้ายรถต่างๆ นะครับ เราก็จะได้เห็นนะครับ แล้วผมก็จะ อ่านคำที่น้องร้องกลับไปเป็นเพลง มโนราห์อีกทีหนึ่งนะครับ แต่อาจจะฟังยากซักนิดหนึ่งนะครับ ok ครับ ได้ พร้อมไหมครับ ok